KPI Management System

KPI Management System

    KPI Management System By SurveyCan
    KPI ย่อมาจากคำว่า "Key Performance Indicator" ซึ่งเป็นตัวชี้วัดสำคัญที่ใช้ในธุรกิจหรือองค์กรเพื่อวัดผลการดำเนินงานและความสำเร็จในการบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจหลัก ค่า KPI นี้ถูกใช้ในการประเมินประสิทธิภาพ โดยส่วนใหญ่จะเป็นข้อมูลที่สามารถวัดและตรวจสอบได้ มักถูกนำมาใช้ในการติดตามและวัดผลด้านการเงิน, การบริหารงาน, การจัดการความรู้, และด้านอื่น ๆ ตามวัตถุประสงค์เป้าหมายขององค์กรและกิจกรรมที่กำหนดไว้ การตั้งค่า KPI ถูกดำเนินการโดยองค์กรเพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์โดยรวมและเป้าหมายในระยะยาวขององค์กร นอกจากนี้ KPI ยังช่วยให้องค์กรสามารถทำการปรับปรุงและปรับตัวต่อสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที

    ความหมายของ KPI คืออะไร?
    KPI คือ ดัชนีชี้วัดควาสำเร็จ (Key Performance Indicator) เป็นตัวย่อมาจากคำว่า
    K = Key หมายถึง หัวใจหลัก, เป้าหมายหลัก, กุญแจสำคัญของความสำเร็จ
    P = Performance หมายถึง ประสิทธิภาพ, ประสิทธิผล, ความสามารถในการทำงาน
    I = Indicator หมายถึง ดัชนีชี้วัด, ตัวชี้วัด
    ซึ่งก็แปลได้ว่า “ดัชนีชี้วัดควาสำเร็จ” เป็นตัววัดคุณค่าที่ประเมินผลออกมาเป็นตัวเลข, จำนวน, ปริมาณได้ชัดเจนและแสดงให้เห็นว่าองค์การหรือพนักงานนั้นมีศักยภาพเพียงไร หรือประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้หรือไม่

    KPI ที่ดีต้องใช้หลัก SMART
    การตั้ง KPI ให้เป็นหลัก SMART เป็นวิธีการที่นิยมใช้เพื่อให้คำนิยามและวัดได้ชัดเจน และเพื่อให้มีความเป็นรูปธรรมในการตั้งและวัดผล หลัก SMART คือ: Specific (เฉพาะเจาะจง): ระบุวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายของ KPI อย่างชัดเจน เพื่อให้ทุกคนเข้าใจได้โดยไม่มีความกำหนดอย่างมั่นใจ Measurable (สามารถวัดได้): ต้องสามารถวัดผลของ KPI ได้อย่างชัดเจน โดยมีตัวเลขหรือข้อมูลที่สามารถตรวจสอบได้ Achievable (เป็นไปได้): KPI ต้องเป็นเป้าหมายที่เป็นไปได้และที่สามารถทำได้โดยความพยายามที่สมเหตุสมผล Relevant (เกี่ยวข้อง): KPI ต้องเกี่ยวข้องกับเป้าหมายหรือยุทธศาสตร์โดยรวมขององค์กร เพื่อให้มีประสิทธิภาพและความหมายต่อการดำเนินงาน Time-bound (มีระยะเวลา): ต้องมีเป้าหมายเวลาหรือระยะเวลาที่ชัดเจนที่จะบรรลุผลลัพธ์ เพื่อให้มีการบังคับความรับผิดชอบและการติดตามผลลัพธ์ได้ โดยการใช้หลัก SMART จะช่วยให้การตั้ง KPI เป็นไปได้และมีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยให้องค์กรมีการวัดและปรับปรุงผลการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ต่อมาจะสามารถนำข้อมูลผลลัพธ์ที่ได้มาใช้ในการตัดสินใจและการวางแผนในอนาคตได้อย่างมีเสถียรภาพ


    KPI สามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภทตามลักษณะและการใช้งานต่าง ๆ ดังนี้:

    1.Financial KPIs (KPI ทางการเงิน):
    เชื่อมโยงกับผลตอบแทนทางการเงินขององค์กร เช่น ยอดขายสุทธิ, กำไรขั้นต้น, อัตราการเรียกเก็บหนี้, และอัตราการเสื่อมราคา
    2.Operational KPIs (KPI ด้านการดำเนินงาน):
    วัดประสิทธิภาพของกระบวนการหรือกิจกรรมทางธุรกิจ เช่น อัตราการผลิต, อัตราการผลิตขาดแคลน, และคุณภาพผลิตภัณฑ์
    3.Customer KPIs (KPI ด้านลูกค้า): วัดประสิทธิภาพในการบริการลูกค้าและความพึงพอใจของลูกค้า เช่น อัตราการเสียลูกค้า, ความพึงพอใจของลูกค้า, และตัวชี้วัดเกี่ยวกับประสบการณ์ลูกค้า
    4.Internal Process KPIs (KPI ด้านกระบวนการภายใน): วัดประสิทธิภาพของกระบวนการภายในองค์กร เช่น อัตราการผลิตเสร็จทันเวลา, อัตราการขาดแคลนของวัสดุ, และอัตราการผลิตติดตามมาตรฐาน
    5.Learning and Growth KPIs (KPI ด้านการเรียนรู้และการเติบโต): วัดประสิทธิภาพในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และการพัฒนาองค์กร เช่น อัตราการกลับรักษาพนักงาน, ความพร้อมในการใช้เทคโนโลยีใหม่, และการพัฒนาทักษะและความรู้ของพนักงาน
    6.Strategic KPIs (KPI กลยุทธ์): สอดคล้องกับเป้าหมายยุทธศาสตร์ขององค์กร เช่น ความสามารถในการเข้าถึงตลาดใหม่, ความสามารถในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่, และอัตราการเติบโตของตลาด การเลือกใช้ประเภทของ KPI นั้นควรจะขึ้นอยู่กับเป้าหมายและยุทธศาสตร์ขององค์กร โดยการใช้ผสมผสานระหว่างประเภทต่าง ๆ อาจช่วยให้องค์กรได้รับภาพรวมที่ครอบคลุมและครบถ้วนในการวัดและประเมินผลการดำเนินงานของตนเองได้ดียิ่งขึ้น และมีมุมมองทางกลยุทธ์ที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น

     

เข้าสู่ระบบ
×
ลงชื่อสมัครเข้าใช้ฟรี
×